ข้อมูลเรื่องเอกสารกู้บ้าน

Information about home loan documents

ข้อมูลเรื่องเอกสารกู้บ้าน ภายหลังสำรวจหาที่อยู่ที่อาศัยอยู่พักหนึ่ง ในบรรดาตัวเลือกทั้งผองผู้บริโภคจะสามารถตกลงใจเลือกบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองได้ในในที่สุด อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญเป็น การขอสินเชื่อ ซึ่งความรวดเร็วแล้วก็การใคร่ครวญอนุมัตินั้นเริ่มตั้งแต่การยื่นเอกสารกู้ซื้อบ้านที่ถูกรวมทั้งครบบริบรูณ์ ซึ่งการเตรียมเอกสารการขอสินเชื่อบ้านนั้นไม่ยุ่งยากเกินความสามารถของคนซื้อบ้านมือใหม่ดังเช่นว่าคุณ ลองมองกันว่าเอกสารการขอสินเชื่อบ้านมีอะไรบ้าง

ข้อมูลเรื่องเอกสารกู้บ้าน

ข้อมูลเรื่องเอกสารกู้บ้าน

ก่อนหน้าที่ผ่านมาเคยกล่าวเอ่ยถึงปัจจัยที่ทำให้กู้ไม่ผ่านมาแล้ว คราวนี้ขอเอ่ยถึงเคล็ดลับที่จะทำให้กู้บ้าน-คอนโดฯ ให้ผ่านแบบชัดๆหรือเรียกว่าเตรียมพร้อมก่อนจะขอกู้สินเชื่อบ้าน-คอนโดฯ โดยผู้ที่ซื้อบ้าน-คอนโดฯ แบบผ่อนดาวน์จำนวนมากยังมีเวลาเตรียม แต่ว่าผู้ที่ซื้อบ้าน-คอนโดฯ พร้อมอยู่ (โดยยิ่งไปกว่านั้นบ้าน ส่วนมากจะเป็นพร้อมอยู่) จำนวนมากมิได้เตรียมให้พร้อมกับการจะยื่นขอสินเชื่อ ก็เลยทำให้มิได้รับอนุมัติหรือได้รับอนุมัติไม่เต็มวงเงินที่ปรารถนา ซื้อวิลล่าภูเก็ต

5 ขั้นตอนกู้ยืมเงินซื้อบ้าน คอนโด

การตัดสินใจซื้อบ้านในแต่ละครั้งนั้นมีความจำเป็นต่อชีวิตของพวกเรามากมาย เพราะว่าเป็นการซื้อเงินครั้งใหญ่แล้วก็อาจจะมิได้ได้โอกาสซื้อเสมอๆผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็บางครั้งอาจจะยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็เลยกำเนิดความไม่ค่อยสบายใจว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติงานเช่นไร จำเป็นต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้างเพื่อที่จะได้ให้พวกเราสามารถกู้ยืมได้อย่างไม่มีปัญหา มาดูขั้นตอนกล้วยๆสำหรับการซื้อบ้านว่าต้องทำงานอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 1 ตระเตรียมเงินให้พร้อมก่อนกู้ซื้อที่พักอาศัย
ขั้นตอนที่ 2 ค่าจ้างรายเดือนเท่านี้กู้หนี้ยืมสินซื้อบ้าน คอนโด ได้เยอะแค่ไหน
ขั้นตอนที่ 3 แนวทางเลือกดอกสินเชื่อกู้ซื้อที่พักอาศัย
ขั้นตอนที่ 4 กู้หนี้ยืมสินซื้อบ้าน คอนโด จะต้องยื่นเอกสารอะไรบ้าง (ขณะนี้คุณอยู่ตรงนี้)
ขั้นตอนที่ 5 กู้หนี้ยืมสินซื้อบ้าน คอนโด ไม่ผ่าน ทำยังไง

เอกสารกู้ซื้อบ้านมีอะไรบ้าง
การขอสินเชื่อบ้าน สามารถแบ่งเอกสารกู้ซื้อบ้านออกเป็น 3 กรุ๊ป ดังนี้

ข้อมูล
information

กรุ๊ปที่ 1 เอกสารประจำตัวผู้ขอสินเชื่อ

เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารที่จะระบุตัวตนว่าคนที่กู้เป็นคนใดกัน และก็อยู่อาศัยอยู่ที่แห่งไหน เอกสารในกรุ๊ปที่ 1 ซึ่งผู้ขอสินเชื่อจะต้องเตรียมการเพื่อยื่นประกอบกิจการพินิจขอสินเชื่อมีดังนี้

  1. บัตรประชาชน หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ตระเตรียมให้พร้อมทั้งยังต้นฉบับแล้วก็สำเนา
  2. ทะเบียนสำมะโนครัวฉบับเจ้าของบ้าน อีกทั้งต้นฉบับรวมทั้งก๊อบปี้ทุกหน้า บ้าน
  3. ในกรณีที่เปลี่ยนแปลงชื่อ หรือแปลงสกุล ให้ตระเตรียมใบลงบัญชีแปลงชื่อและก็ชื่อสกุล อีกทั้งต้นฉบับรวมทั้งสำเนา ใช้ทั้งหมดทั้งปวงไม่ว่าจะมีการแปลงชื่อจำนวนกี่ครั้ง
  4. กรณีแต่งงาน จัดแจงทะเบียนสมรส อีกทั้งต้นฉบับรวมทั้งสำเนา
  5. กรณีหย่า จัดแจงทะเบียนหย่า อีกทั้งต้นฉบับรวมทั้งสำเนา
  6. กรณีคู่ครองเสียชีวิต จัดเตรียมมรณะบัตรของคู่ชีวิต ทั้งยังต้นฉบับแล้วก็สำเนา
  7. กรณีแยกกันอยู่กับคู่บ่าวสาว จัดแจงใบแจ้งความแยกกันอยู่ ทั้งยังต้นฉบับรวมทั้งสำเนา
เรื่องเอกสารกู้บ้าน
about home loan documents

กรุ๊ปที่ 2 เอกสารแสดงด้านการเงิน

เอกสารชุดนี้จะให้ข้อมูลด้านรายได้แล้วก็ประสิทธิภาพสำหรับการผ่อนหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ รวมถึงหลักทรัพย์ต่างๆ วิลล่าภูเก็ต

กรณีเป็นพนักงานประจำขึ้นตรงต่อหน่วยงาน ให้ตระเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ใบรับรองค่าจ้างรายเดือน ฉบับจริง
  2. เพย์เมนต์สลิปค่าตอบแทนรายเดือน หรือใบแจ้งการจ่ายค่าจ้างจากหน่วยงานย้อนไป 3 เดือน ฉบับจริงแล้วก็สำเนา
  3. สมุดบัญชีแสดงรายการเดินบัญชีย้อนไป 6 เดือน ทั้งยังฉบับจริงแล้วก็สำเนา
  4. กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด ให้จัดแจงแบบแสดงรายการภาษีรายได้รายปีหรือใบรับรองการหักภาษีในที่จ่าย (50 ทวิ) ทั้งยังต้นฉบับรวมทั้งสำเนา

กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้ตระเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

  1. สำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนการขาย หรือใบรับรองการเขียนทะเบียนนิติบุคคล (หนังสือบริคณห์สนธิ) ในกรณีที่มีการลงทะเบียน
  2. สมุดบัญชีแสดงการเดินบัญชีย้อนไป 12 เดือน ทั้งยังบัญชีส่วนตัวรวมทั้งบัญชีธุรกิจ ทั้งยังฉบับจริงแล้วก็สำเนา
  3. บัญชีธนาคารบัญชีกระแสรายวันที่แสดงรายการเดินบัญชีย้อนไป 6 เดือน แล้วก็วงเงินเบิกเกินบัญชี
  4. หลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น รูปถ่ายกิจการค้า 5 ภาพ รายนามผู้ถือหุ้น งบการเงิน หลักฐานรายได้รวมทั้งสินทรัพย์อื่นๆหลักฐานแสดงการเสียภาษีอากร (ภาษีมูลค่าเพิ่ม 30) ฯลฯ

กรณีเลี้ยงชีพอิสระ ให้จัดแจงเอกสารดังต่อไปนี้

  1. บัญชีธนาคารแสดงรายการเดินบัญชีย้อนไป 6 เดือน ทั้งยังฉบับจริงรวมทั้งสำเนา
  2. ใบอนุมัติประกอบวิชาชีพ ดังเช่นว่า หมอ หมอฟัน เภสัชกร วิศวกร ทนายความ คนเขียนแบบ ฯลฯ

กรุ๊ปที่ 3 เอกสารแสดงเนื้อหาหลักทรัพย์

สำหรับการขอสินเชื่อบ้านนั้นสถาบันการเงินจะถือเอาอสังหาริมทรัพย์ที่กู้ยืมไปซื้อนั้นมาเป็นประกัน ด้วยเหตุนั้นเอกสารที่แสดงเนื้อหาหลักทรัพย์ก็คือ เอกสารที่กำหนดถึงอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ

  1. ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์เป็นที่ดินหรือที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้าง ได้แก่ บ้าน ทาว์นเฮ้าส์ ตึกการค้า ฯลฯ ให้จัดเตรียมสำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน โฉนดที่ดิน (นางสาว 4 จังหวัด) หรือหนังสือแสดงสิทธิ์ใน ที่ดิน (นางสาว 3 กรัม) ถ่ายเอกสารทุกหน้าปริมาณ 2 ชุด
  2. ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์เป็นห้องเช่า ให้ตระเตรียมหนังสือแสดงเจ้าของห้องพัก (อำเภอช. 2) ก๊อบปี้ทุกหน้า ปริมาณ 2 ชุด
  3. แผนที่ตั้งอย่างสังเขปของอสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร
  4. ภาพถ่ายของอสังหาริมทรัพย์
  5. สำเนาคำสัญญาจะซื้อจะขาย และก็ข้อตกลงเงินมัดจำ หรือหลักฐานการจ่ายเงินดาวน์
  6. ในกรณีที่เป็นอสังหาริมทรัพย์มือสอง เป็นการซื้อต่อที่มิได้ซื้อโดยตรงจากแผนการแบ่งสรร ให้ตระเตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และก็ทะเบียนสำมะโนครัวของผู้จะขาย
  7. สำเนาหนังสือแสดงเจ้าของสิ่งก่อสร้าง ดังเช่น สัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด. 13) เอกสารสิทธิ์ก่อสร้างบ้าน ใบคำวิงวอนเลขที่บ้าน ฯลฯ
สินเชื่อกู้บ้าน
home loan

กรณีมีผู้กู้ร่วม ให้ผู้กู้ร่วมทุกคนจัดแจงเอกสารในกรุ๊ปที่ 1 เอกสารประจำตัวผู้ขอสินเชื่อ และก็เอกสารในกรุ๊ปที่ 2 เอกสารโชว์ทางด้านการเงิน ตามกระบวนการและก็เนื้อหาที่ให้ไว้ข้างบน

ภายหลังจากจัดแจงเอกสารทั้งปวงเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ผู้ขอสินเชื่อควรจะวิเคราะห์เอกสารอีกรอบเพื่อความมั่นใจว่าเอกสารการขอสินเชื่อบ้านนั้นถูกจัดแจงไว้อย่างแม่นยำและก็ครบสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งเอกสารที่อยากต้นฉบับไปแสดงรวมทั้งเอกสารที่ใช้สำเนา ให้ผู้ขอสินเชื่อเซ็นชื่อยืนยันสำเนาถูกทุกฉบับ Phuket Villa

อย่างไรก็แล้วแต่ ถึงแม้ผู้ขอสินเชื่อจะจัดเตรียมเอกสารครบตามรายการแล้ว แต่ว่าสถาบันการเงินมีสิทธิเรียกขอเอกสารหรือหลักฐานอื่นๆเพิ่มอีก ประกอบกิจการใคร่ครวญอนุมัติสินเชื่อ ในกรณีแบบนี้ผู้กู้ควรจะรีบปฏิบัติงานนำเอกสารส่งต่อข้าราชการสินเชื่อข้างใน 3 วัน เพื่อความเกี่ยวเนื่องของขั้นตอนพิเคราะห์

วิธีสำหรับการขอกู้ให้ผ่าน

ก่อนที่จะยื่นขอกู้ จะต้องเตรียมความพร้อมให้พร้อม โดยเคล็ดวิธีสำหรับการขอกู้ให้ผ่าน มีดังนี้

  1. ประเมินรายได้
    ควรจะเลือกซื้อที่อยู่ที่อาศัยให้เหมาะสมกับรายได้ เพื่อการขอวงเงินกู้สอดคล้องกับรายได้รวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับในการผ่อนหนี้ โดยผู้กู้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีกู้ผู้เดียว หรือมีผู้กู้ร่วมต้องคิดถึงรายได้ของผู้กู้รวมทั้งผู้กู้ร่วมว่ามีทั้งปวงมากแค่ไหน มีค่าใช้จ่ายเยอะแค่ไหน มีผ่อนอะไรบ้าง และก็มีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการผ่อนหนี้ได้มากแค่ไหน โดยไม่สมควรเลือกซื้อที่อยู่ที่อาศัยในราคาเกินความสามารถ เกินกว่าความรู้ความเข้าใจสำหรับการผ่อนหนี้ไหว และไม่ควรจะกู้เกินความสามารถด้วยเหมือนกัน

กรณีกู้เกินความสามารถ คือ ในบางจังหวะและก็บางธนาคารที่ปรารถนารีบยอดสินเชื่อ จะเสนอวงเงินกู้ให้สูงขึ้นยิ่งกว่าราคาบ้าน-คอนโดฯ ที่ซื้อ ตัวอย่างเช่น ราคาบ้าน-คอนโดฯ 2.5 ล้านบาท ผู้กู้มีความรู้ความสามารถสำหรับเพื่อการกู้ได้จริง 3 ล้านบาท ผู้กู้บางรายก็เลือกขอกู้เต็มปริมาณ ซึ่งในความจริง วงเงิน 3 ล้านบาทบางครั้งก็อาจจะตึงเกินความจำเป็นสำหรับผู้กู้ อาจจะทำให้ประสบพบเจอปัญหาผ่อนไม่ไหวในระยะยาวได้

  1. ต้องมีเงินเก็บ
    ผู้บริโภคบ้าน-คอนโดฯ จะต้องมีเงินเก็บขั้นต่ำ 10% ของราคาที่อยู่ที่อาศัย เผื่อในกรณีที่กู้ได้ไม่เต็มวงเงิน จะได้มีเงินส่วนนี้ไว้จ่ายส่วนต่าง หรือเป็นเงินที่ใช้เป็นค่าใช้สอยในวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งคนซื้อบ้าน-คอนโดฯ ไม่สมควรหวังน้ำบ่อหน้าว่าบางครั้งอาจจะได้รับการอนุญาตวงเงินเต็มปริมาณ หรือมีส่วนต่างที่จะใช้เป็นค่าครองชีพๆในวันโอนกรรมสิทธิ์

หลายสาเหตุที่ผู้บริโภคขาดเงินเก็บสำรอง เมื่อขอสินเชื่อมิได้ตามวงเงินที่ปรารถนา แล้วไม่อาจจะยืมเงินมาจ่ายส่วนต่างได้ เป็นต้นว่า ราคาบ้าน-คอนโดฯ 3 ล้านบาท แต่ว่ากู้ได้เพียงแค่ 2.5 ล้านบาท ไม่อาจจะหาส่วนต่างอีก 5 แสนบาทได้ ก็บางครั้งอาจจะจะต้องปลดปล่อย ซึ่งถ้าเป็นการซื้อคอนโดฯ ที่มีผ่อนดาวน์ไปนิดหน่อยแล้ว บางทีก็จำต้องเสียตังค์ดาวน์พวกนั้นไปอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ โดยในกรณีที่ผู้กู้มีเงินส่วนต่างมากมาย แล้วก็กู้ลดน้อยลง ก็ยิ่งได้โอกาสผ่านการอนุญาตได้สูง

  1. สร้างความเป็นมาทางด้านการเงินให้มีความสวยสดงดงาม
    กรณีพนักงานประจำ แม้ว่าจะได้โอกาสสำหรับการได้รับอนุมัติสูงขึ้นมากยิ่งกว่าผู้ที่มีอาชีพอิสระ หรือผู้ที่เป็นพนักงานประจำแม้กระนั้นไม่มีสลิปค่าตอบแทนรายเดือน แต่ว่าก็จึงควรสร้างความเป็นมาทางด้านการเงินให้เกิดความงดงามเหมือนกัน ซึ่งแน่ๆว่า จำเป็นต้องเริ่มจากประวัติความเป็นมารายได้จากสมุดบัญชีแบงค์ที่ใช้รับเงินเดือน ก่อนที่จะยื่นกู้สัก 3-6 เดือน ควรจะให้มีเงินเหลืออยู่ติดบัญชีอย่างต่ำ 500-1,000 บาท ไม่สมควรกดเงินออกมาทั้งผอง 100% เมื่อค่าตอบแทนรายเดือนออก เรียกว่า ค่าจ้างรายเดือนเข้าปุ๊ป ก็กดออกหมดปั๊บ จะมีผลให้การเดินบัญชีไม่สวยสักเท่าไหร่
  2. สร้างประวัติความเป็นมารายได้ให้เยี่ยม
    ผู้ที่มีอาชีพอิสระ การมีรายได้ไม่แน่นอนก็กู้ยากอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเกิดไม่มีเรื่องราวรายได้ผ่านบัญชีธนาคารเลย ช่องทางสำหรับการกู้ผ่านพอๆกับ 0 ทีเดียว ด้วยเหตุนั้น ผู้ที่ทำอาชีพอิสระ ควรที่จะนำเงินฝากบัญชีตลอด รวมทั้งทำบัญชีรายได้-รายการจ่ายเก็บไว้ (เอาให้มั่นใจควรจะมีอย่างต่ำ 6-12 เดือนที่ผ่านมายื่นกู้) เพื่อใช้เป็นเอกสารด้านรายได้ประกอบกิจการยื่นสินเชื่อ

ส่วนผู้ที่เป็นพนักงานประจำ แม้กระนั้นไม่มีสลิปค่าตอบแทนรายเดือน ซึ่งส่วนมากจะเป็นกลุ่มของผู้คนสถานที่ทำงานกับบริษัทครอบครัว ห้างหุ้นส่วน รับเงินเดือนเป็นเงินสด ควรจะสร้างเรื่องราวรายได้ด้วยการนำเงินสดกลุ่มนี้ฝากบัญชีทุกเดือน ขั้นต่ำ 6-12 เดือนที่ผ่านมายื่นกู้

เตรียมเอกสารกู้บ้าน
Prepare home loan documents

เวลากู้จริง ก็ให้บริษัท สถานประกอบการ หรือนายจ้างที่ผู้กู้ปฏิบัติงานให้ออกเอกสารรับประกันค่าตอบแทนรายเดือนหรือการันตีรายได้ของผู้กู้มาเป็นส่วนประกอบคู่กับจำนวนเดินบัญชีในสมุดบัญชีแบงค์ (ถ้าหากมีประวัติของสถานประกอบการว่าดำเนินกิจการมานานและก็เป็นธุรกิจที่ยืนยง เพื่อแสดงความยั่งยืนของรายได้ ก็จะเพิ่มความน่าไว้ใจด้านรายได้อีกทั้งในขณะนี้รวมทั้งอนาคตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)

  1. จัดการหนี้สินให้หมด
    เอ่ยถึงกรณีหนี้สินทั่วๆไปก่อน (ยังเป็นหนี้เป็นสินธรรมดา ไม่ใช่หนี้สินคงจะค้างกระทั่งติดประวัติความเป็นมาบัญชีดำในรายงานของเครดิตบูโร) ควรจะสะสางหนี้สินต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้สินการผ่อนคลายผลิตภัณฑ์ให้หมดก่อนขอยื่นกู้ ยิ่งจัดการให้หมดก่อน 3-6 เดือนจะดีเยี่ยม เพราะเหตุว่าช่วงเวลาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ธนาคารต่างๆจะส่งรายงานให้เครดิตบูโร โชว์ว่าหนี้สินสะสางเป็นระเบียบแล้ว แต่ว่าถ้าหากเป็นพึ่งไปจัดการก่อนยื่นกู้ไม่กี่วัน จะยังไม่โชว์ บางทีอาจจะเสี่ยงกว่านิดหน่อย
  2. กรณีมีประวัติติด
    มีประวัติเป็นหนี้เป็นสินคงจะค้าง สถาบันการเงินจะส่งข้อมูลตามจริงมายังเครดิตบูโร ในกรณีที่ยังไม่จ่าย สถาบันการเงินบางทีอาจประเมินว่าได้โอกาสที่จะขาดความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการจ่ายหนี้ในอนาคต ส่วนในกรณีที่เคยมีประวัติติดหนี้ และก็พึ่งจัดการก่อนกู้ไม่นาน จังหวะจะกู้ไม่ผ่านก็สูงด้วยเหมือนกัน ส่วนในกรณีที่สะสางเป็นระเบียบแล้วมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จะยังมีลุ้น ขึ้นกับดุลยพินิจของข้าราชการอนุมัติสินเชื่อ วิลล่าในป่าตอง

ในกรณีที่ซื้อบ้าน-คอนโดฯ แบบผ่อนดาวน์ มีประวัติการคลายเงินดาวน์อย่างยอดเยี่ยมตลอดเวลาการผ่อนคลาย ไม่ผิดนัดหมายเลย รวมทั้งเรื่องราวจ่ายหนี้ต่างๆภายหลังที่จัดการหนี้สูญแล้ว ดีมาตลอด จะช่วยทำให้ได้โอกาสได้รับการใคร่ครวญมากขึ้นเรื่อยๆ

  1. ห้ามเผลอไปผ่อนผลิตภัณฑ์ก่อนกู้
    อันนี้เป็นสิ่งที่ห้ามสำคัญ ก่อนยื่นกู้ 3 เดือน ไม่สมควรรีบไปผ่อนผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตามเลย จะผ่อนเล็ก ผ่อนน้อยก็ไม่สมควรเด็ดขาด เนื่องจากจะตัดจังหวะสำหรับในการได้วงเงินตามจุดหมาย
  2. จัดเตรียมเอกสารให้พร้อม
    ข้อนี้ก็มีส่วนสำคัญ ก่อนยื่นกู้ ถ้าเกิดผู้กู้จัดแจงเอกสารทุกสิ่งครบ ทั้งยังเอกสารเกี่ยวกับรายได้ เป็นต้นว่า ใบรับรองค่าตอบแทนรายเดือน สลิปค่าตอบแทนรายเดือน เอกสารประวัติความเป็นมารายได้ รายการเดินบัญชีอย่างต่ำ 3-6 เดือน อื่นๆอีกมากมาย เอกสารเกี่ยวกับผู้กู้ อีกทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบาน เอกสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ หรือการแต่งงาน อื่นๆอีกมากมาย ยิ่งเอกสารต่างๆครบในวันยื่นกู้ จะได้รับผลอนุมัติที่เร็วขึ้น

แม้จัดเตรียมตาม 8 ข้อนี้ ยืนยันว่าช่องทางผ่านการอนุญาตสินเชื่อสูงยิ่งกว่า 85% แน่ๆ

อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต